2267 Views |
เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก ไม่เพียงแต่มนุษย์อย่างเราเท่านั้นที่รู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบาย แต่น้องแมวก็สามารถรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว หรือ เป็นไข้หวัดแมวได้เช่นกัน
เพราะเมื่อร่างกายอ่อนแอจึงเป็นประตูที่เปิดต้อนรับเจ้าเหล่าเชื่อโรคตัวร้าย ให้เข้ามาในร่างกายได้ง่ายกว่าในสภาะที่แข็งแรง
โรคไข้หวัดแมว (Feline upper respiratory tract diseases หรือ Cat flu) เป็นโรคที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้นๆในแมว เกิดจากการติดเชื้อจากไวรัสซึ่งเป็นไวรัสจำเพาะในแมว และแบคทีเรียในอากาศ ได้แก่ Feline herpes virus (FHV-1) และ Feline Calicivirus (FCV)
นอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ Chlamydia spp., Bordetella bronchiseptica และ Mycoplasma spp. เป็นต้น
ซึ่งเชื้อไวรัสดังกล่าว สามารถพบได้ทั่วไป ความรุนแรงและอาการที่แสดงออกของโรคขึ้นอยู่กับแต่ละชนิดและสายพันธุ์ หากน้องแมวที่ติดเชื้อไวรัสเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรง อาจะส่งผลถึงขั้นเสียชีวิตได้
แต่ผู้ปกครองทางบ้านไม่ต้องกลัวไปนะคะ เพราะโรคไข้หวัดแมวนี้สามารถป้องกันได้อย่างง่ายได้ค่ะ
โรคไข้หวัดแมวนั้น สามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่ง เช่น น้ำตา น้ำมูกของน้องแมวที่ติดเชื้อ โดยเมื่อเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูก ปาก หรือตา จากนั้นจะเข้าสู่เซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบและแสดงอาการของโรคตามมา
สำคัญที่สุด คือ "บ้านไหนที่เลี้ยงน้องแมวมากว่า 1 ตัว" หรือ อยู่กันอย่างหนาแน่น จะมีโอกาสติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อได้เร็วมาก
หรือถ้ามีน้องแมวที่เคยป่วยเป็ยไข้หวัดแมวแล้วหายจากโรคนี้แล้ว ยังสามารถเป็นพาหะแพร่เชื้อต่อได้
เห็นไหมเหมือน "เชื้อโควิด-19" ในมนุษย์เลย !!!
โดยปกติแล้ว อาการของโรคไข้หวัดแมว มักแสดงอาการหลักในส่วนของทางเดินหายใจส่วนต้น รวมไปถึงอาการที่ดวงตา และ ภายในช่องปาก
หลังจากที่น้องแมวได้รับเชื้อโรค จะมีระยะการฟักตัวของโรคไข้หวัดแมวอยู่ประมาณ 2-10 วัน ในบางรายอาจยาวนานถึง 14 วันได้ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของไวรัสนะ
ลักษณะอาการของโรคไข้หวัดแมว ที่สังเกตได้อย่างชัดเจนเลย คือ
หากพบอาการดังกล่าวข้างต้น ควรรีบพาน้องแมวมาพบคุณหมอ เพื่อตรวจดูอาการและวินิจฉัยโรคต่อไป เพราะในบางรายเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดแมวแล้ว ส่งผลอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยนะคะ
การรักษาโรคไข้หวัดแมวนี้ จะเป็นการรักษาตามอาการและประคับประคองอาการ ทำได้โดยการเพิ่มสมดุลของร่างกาย การแก้ไขภาวะขาดน้ำ ให้ยาละลายเสมหะ การให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อนจากแบคทีเรีย
ทั้งนี้ทั้งนั้นจะอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ เช่น ยาหยอดตา ยาลดน้ำมูกหรือเสมหะ บางรายคุณหมออาจพิจารณาใช้ Inhalation therapy หรือที่เรียกว่าการดมยาด้วย normal saline
ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุทางเดินหายใจ และช่วยลดความข้นหนืดของสารคัดหลั่งได้
นอกจากนี้ อาจพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะในรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย รวมไปถึงการจัดการสภาพแวดล้อมไม่ให้ชื้น หรือเย็นจนเกินไป
การป้องกันที่ดีที่สุดของโรคไข้หวัดแมวคือ “การทำวัคซีน” โดยสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนน้องแมวอายุประมาณ 8 สัปดาห์
ซึ่งวัคซีนสำหรับป้องกันโรคไข้หวัดแมวนี้จัดเป็นวัคซีนหลักที่จำเป็นต้องทำให้กับน้องแมวทุกตัว เพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรคไข้หวัดแมวเมื่อร่างกายได้รับเชื้อ และลดการระบาดของเชื้อไวรัสภายในบริเวณที่เลี้ยงได้
โดยเฉพาะที่ HOSPETAL By PRS Center มีโปรแกรมวัคซีนสำหรับลูกแมว
และศูนย์เฉพาะทางโรคแมว
เราสามารถดูแลสุขภาพได้ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต ภายใต้การดูแลของทีมสัตวแพทย์และบุคลาการที่มีความชำนาญเฉพาะในแมว พร้อมให้บริการการตรวจสุขภาพ การวินิจฉัยโรคและรักษา รวมถึงให้คำปรึกษาเรื่องพฤติกรรมและการดูแลในแมว