13 จำนวนผู้เข้าชม |
เจ้าของหลายคนที่เลี้ยงสุนัขหรือแมวแบบ “ระบบปิด” มักสงสัยว่า จำเป็นต้องฝังไมโครชิพไหม? เพราะน้องไม่ได้ออกไปไหนเลย แต่ความจริงคือ แม้จะอยู่ในบ้านตลอดเวลา เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น ประตูเปิดค้างโดยไม่ตั้งใจ ช่างเข้ามาทำงาน น้องตกใจเสียงดังแล้ววิ่งหลุด หรือแม้แต่เหตุฉุกเฉินอย่างไฟไหม้ เพียงเหตุการณ์เดียวก็อาจทำให้น้องหลุดหายและตามหาได้ยากมาก
ดังนั้น การฝังไมโครชิพสัตว์เลี้ยง จึงเป็นวิธีสำคัญในการยืนยันตัวตน เพิ่มโอกาสให้น้องกลับบ้าน และป้องกันการเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ไม่มีเจ้าของ
ไมโครชิพสัตว์เลี้ยง (Microchip) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กเทียบเท่าเมล็ดข้าว ทำหน้าที่เหมือน “บัตรประชาชนของสัตว์เลี้ยง” โดยมีรหัสเฉพาะ 15 หลักสำหรับเชื่อมกับข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อสัตว์เลี้ยง วันเกิด เพศ พันธุ์ รวมถึงชื่อและเบอร์ติดต่อเจ้าของ
ตำแหน่งฝังไมโครชิพจะอยู่บริเวณหลังคอระหว่างหัวไหล่ทั้งสองข้าง และต้องใช้เครื่องอ่านไมโครชิพ (Microchip Reader) เพื่อสแกนข้อมูล
การฝังไมโครชิพ จะเจ็บมากกว่าเข็มที่ฉีดวัคซีนเล็กน้อย เพราะใช้เข็มเฉพาะทางที่มีขนาดใกล้เคียงกับการบริจาคเลือด ทำเพียงครั้งเดียวก็สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต
ไมโครชิพสัตว์เลี้ยงช่วยเพิ่มความปลอดภัยทุกด้าน ได้แก่
แม้การเลี้ยงระบบปิดจะช่วยลดความเสี่ยง แต่นั่นยังไม่เพียงพอหากเกิดเหตุคาดไม่ถึง การฝังไมโครชิพสัตว์เลี้ยงจึงเป็นการเพิ่มความมั่นใจทั้งด้านความปลอดภัย สุขภาพ และกฎหมาย ช่วยให้น้องอยู่กับเราอย่างปลอดภัยและยาวนานที่สุด
หากคุณต้องการตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง ฝังไมโครชิพ และออกเอกสารสำคัญในการจดทะเบียนสัตว์ตามกฎหมายใหม่
โรงพยาบาลสัตว์ฮอสเพ็ททอล
พร้อมให้บริการครบวงจรโดยทีมสัตวแพทย์มืออาชีพ ที่ดูแลทั้งสุนัขและแมวอย่างอบอุ่นเหมือนสมาชิกในครอบครัว
Q&A
1. ฝังไมโครชิพแมวหรือสุนัขเจ็บไหม?
การฝังไมโครชิพเจ็บน้อย ใช้เวลาไม่นาน และอยู่ได้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องเปลี่ยน
2. หลังฝังไมโครชิพต้องทำอะไรต่อ?
ต้องอัปเดตข้อมูลเจ้าของในระบบไมโครชิพให้ถูกต้องเสมอ เพื่อให้ค้นหาเจ้าของได้ทันทีเมื่อน้องพลัดหลง