แนะนำวิธีการตรวจภูมิแพ้สุนัขและแมว
(เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น) 
HOSPETAL By PRS Center

หลายคนอาจมองว่าการตรวจภูมิแพ้ให้สุนัขและแมวเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เสียเวลา มีขั้นตอนเยอะ ยุ่งยาก แต่จะดีกว่าไหมถ้าสิ่งที่ HOSPETAL กำลังบอกต่อไปนี้จะทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อให้น้องๆได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่สัตว์ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ วิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับโรคนี้ คือ ลดการสัมผัส หรือ หลีกเลี่ยงไม่ให้พบเจอกับสารก่อภูมิแพ้ ใบนทความนี้จะมาแนะนำการตรวจภูมิแพ้ของ HOSPETAL ว่ามีประโยชน์ยังไง ช่วยสัตว์ที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้ยังไงบ้าง

#1 การตรวจภูมิแพ้สุนัขและแมว คืออะไร ?

 การตรวจภูมิแพ้ในสุนัขและแมว คือ การตรวจเพื่อหาว่าจริงแล้วๆ น้องหมาน้องแมวเรากำลังแพ้อะไรอยู่ ซึ่งโรคภูมิแพ้มักแสดงอาการออกมาทางผิวหนัง เช่น เกิดรอยโรค มีตุ่ม สะเก็ด รอยแผล เป็นต้น น้องหมาน้องแมวมีอาการคัน เกาที่มากขึ้นจนผิดปกติ หรือเลียตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในขั้นต้นสัตวแพทย์จะทำการตรวจวิเคราะห์ผิวหนัง เพื่อดูการติดเชื้อและให้ยารักษาการติดเชื้อก่อน หากอาการดีขึ้นแล้วและกลับมาเป็นใหม่บ่อยๆ และมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคภูมิแพ้จะเข้าสู่กระบวนการทดสอบสารก่อภูมิแพ้ในอาหารและอากาศต่อไป

 ในปัจจุบัน โรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มการพบเจอได้มากขึ้น ทั้งในน้องหมาและน้องแมวโดยเฉพาะภูมิแพ้อาหารและละอองในอากาศ โดยขั้นตอนการทดสอบภูมิแพ้ปัจจุบันมีหลายวิธี เช่น การตรวจเซลล์เพื่อหาเม็ดเลือดขาวที่เกี่ยวข้องกับการแพ้น้ำลายแมลง การทดสอบอาหาร การทดสอบทางผิวหนัง(IDST) และ การทดสอบสารก่อภูมิแพ้ในเลือด(IgE complete)

#2 ทำไมต้องตรวจภูมิแพ้สุนัขและแมว ?

 เพราะวิธีการควบคุมโรคภูมิแพ้สัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุด คือ การลดหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เมื่อสัตว์เลี้ยงได้รับการยืนยันจากสัตวแพทย์แล้วว่าเป็นโรคภูมิแพ้ ขั้นตอนต่อไปจะเข้าสู่การทดสอบหาสารก่อภูมิแพ้

 IgE complete คือ การตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ในอาการและอากาศ รวม 72 ชนิด ทำให้เรารู้ถึงต้นตอของการก่อภูมิแพ้ เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการสัมผัส ไม่ให้อาการแพ้เกิดขึ้นได้อีก เป็นวิธีการตรวจที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาในการตรวจไม่นาน เพียงแค่เก็บเลือกจากจากน้องหมาและน้องแมวเพียง 2-3 cc. ไม่ต้องวางยาสลบ ที่สำคัญปลอดภัยได้มาตรฐานแน่นอน

วันนี้ HOSPETAL By PRS Center มี checklist ง่ายๆ มาฝาก หากสัตว์เลี้ยงมีอาการตั้งแต่ 4 ข้อนี้ขึ้นไป แสดงว่าสัตว์เลี้ยงกำลังมีแนวโน้มเป็นโรคภูมิแพ้ได้นะคะ ควรรีบพามาพบสัตวแพทย์โดนด่วน
 คัน เลีย แทะ แกะ เกา อยู่บ่อยครั้ง
 ผิวหนังติดเชื้อเรื้อรังเป็นๆ หายๆ
 life style ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในตัวบ้าน (indoor)
 หูอักเสบบ่อยครั้ง
 มีอาการอาเจียน หรือ ถ่ายเหลวร่วมด้วย
 ได้รับยาแก้แพ้แล้วอาการดีขึ้น แต่เมื่อหยุดยาก็จะกลับมาเป็นใหม่

#3 ข้อดีของการตรวจ IgE complete

ในบทความนี้ HOSPETAL ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบระหว่างการทดสอบทางผิวหนัง IDST และ การทดสอบสารก่อภูมิแพ้ในเลือด IgE complete

ความแตกต่างระหว่างการทดสอบทางผิวหนัง (IDST) VS การทดสอบสารก่อภูมิแพ้ในเลือด IgE complete 

ข้อดีของการทดสอบสารก่อภูมิแพ้ในเลือด IgE complete
-ไม่ต้องวางยา
-ไม่ต้องงดน้ำและอาหาร
-ไม่ต้องโกนขนให้ยุ่งยาก
-ง่ายและสะดวก เพียงเจาะเลือดเพียง 2-3 cc.

ข้อดีของการทดสอบทางผิวหนัง (IDST)
-มีความแม่นยำ ใช้เวลา 30 นาทีสามารถรู้ผลได้เลย
-มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า แต่ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของสัตวแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ไม่คลาดเคลื่อน
-ในกรณีของรอยโรคของผิวหนังเยอะมาก บางตัวมีตุ่มหนา จะไม่สามารทำได้

#4 ขั้นตอนการตรวจ IgE complete ครอบคลุมอะไรบ้าง ?

การตรวจ IgE complete เป็นการเจาะเลือดจากน้องหมาน้องแมว เพื่อนำไปทดสอบกับสารก่อภูมิแพ้ว่ามีปฎิกริยาตอบสนองหรือไม่
ศูนย์ผิวหนังและภูมิแพ้ของ HOSPETAL By PRS Center ให้บริการการตรวจ IgE complete ที่ครอบคลุมถึง 72 สารก่อภูมิแพ้

แบ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ 29 ชนิด และ สารก่อภูมิแพ้ในอาหาร 43 ชนิด ดังนี้
 

หากน้องหมาน้องแมวที่บ้านกำลังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ HOSPETAL By PRS Center มีศูนย์โรคภูมิแพ้และผิวหนังที่มีสัตวแพทย์คอยให้คำปรึกษา วินิจฉัยอาการ พร้อมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง

นัดหมายเข้าใช้บริการล่วงหน้าได้ที่
โทร. 085-164-6262
Line : @hospetalbyprs หรือคลิก https://lin.ee/9L6PTcm
Location : https://maps.app.goo.gl/55iF8kq3bKzETigE6