ขึ้นแท่น! 5 สายพันธุ์สุนัขที่เสี่ยงโรคผิวหนังมากที่สุด พ่อแม่หมาต้องรู้!

ขึ้นแท่น! 5 สายพันธุ์สุนัขที่เสี่ยงโรคผิวหนังมากที่สุด – พ่อแม่หมาต้องรู้!

โรคผิวหนังในสุนัข ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอาการคัน ขนร่วง ผิวหนังอักเสบ หรือกลิ่นตัวแรง ล้วนเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในน้องหมาบางสายพันธุ์ที่มีแนวโน้ม แพ้ง่าย หรือมี โครงสร้างผิวและขน ที่อับชื้นง่าย ทำให้เป็นโรคผิวหนังบ่อยกว่าสุนัขทั่วไป

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 5 สายพันธุ์สุนัขที่เสี่ยงโรคผิวหนังสูงสุด พร้อมคำแนะนำการดูแลผิวหนังน้องให้ห่างไกลจากปัญหาน่ากวนใจ

1. เฟรนช์ บูลด็อก (French Bulldog)
ขึ้นแท่นสายพันธุ์อันดับหนึ่งในเรื่อง “ผิวบอบบางและแพ้ง่าย”

สาเหตุที่เฟรนช์บูลด็อกเสี่ยงโรคผิวหนัง:
- แพ้ไรฝุ่น แพ้อาหาร และแพ้น้ำลายหมัด
- มีผิวมันง่าย ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวในสุนัข
- รอยพับตามใบหน้าและลำตัวเป็นจุดสะสมความชื้น

อาการที่มักพบ: คันเรื้อรัง ผิวแดง ขนร่วงเป็นหย่อม กลิ่นตัวแรง
คำแนะนำ: หมั่นเช็ดทำความสะอาดรอยพับ และเลือกอาหารสูตรสำหรับสุนัขที่แพ้ง่าย

2. ชิสุ (Shih Tzu)
แม้จะมีขนยาวสวยงาม แต่แฝงไว้ด้วยความชื้นที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ง่าย

ปัญหาผิวหนังในชิสุ:
- ขนยาวหนา ทำให้อับชื้นหลังอาบน้ำหรือเจอสภาพอากาศชื้น
- เสี่ยง เชื้อรา กลาก เกลื้อนในสุนัข หากไม่เป่าให้แห้งสนิท

อาการที่พบบ่อย: ขนร่วงเป็นวง ผิวหนังแดงเป็นจุด หรือเป็นสะเก็ด
คำแนะนำ: อาบน้ำด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน และเป่าแห้งให้ทั่วตัว โดยเฉพาะข้อพับ ใต้คาง และหลังหู

3. ปั๊ก (Pug)
ปั๊กมีรอยพับตามร่างกายที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดการสะสมของแบคทีเรียและยีสต์

จุดเด่นที่ต้องระวัง:
- ผิวหนังบริเวณรอยพับเป็นแหล่งสะสมความมันและสิ่งสกปรก
- อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ผิวอักเสบและมีกลิ่นแรง


อาการที่พบบ่อย: คันที่ใบหน้าและลำตัว, ผิวเปื่อยตามรอยพับ, กลิ่นเหม็นเฉพาะจุด
คำแนะนำ: ทำความสะอาดรอยพับด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นบ่อย ๆ และใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบาง

4. โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)
น้องหมาขนแน่น นุ่มนิ่ม แต่มักประสบปัญหา ความอับชื้นใต้ขน

สาเหตุที่ทำให้โกลเด้นเสี่ยงโรคผิวหนัง:
- ขนแน่น ทำให้อากาศถ่ายเทไม่ดีในชั้นผิวหนัง
- มักมี ภูมิแพ้แฝงในสุนัขพันธุ์ใหญ่ โดยเฉพาะแพ้ฝุ่นหรือโปรตีนในอาหาร

อาการที่สังเกตได้: ผิวแดง คันเรื้อรัง ขนร่วง และบางจุดอาจเป็นผื่น
คำแนะนำ: แปรงขนบ่อย ๆ และตรวจผิวหนังสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงกระตุ้นภูมิแพ้

5. ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever)
ถึงจะดูแข็งแรง แต่ลาบราดอร์ก็มีผิวที่อ่อนโยนกว่าที่คิด

ปัญหาผิวหนังที่พบในลาบราดอร์:
- ผิวมันกว่าหมาสายพันธุ์อื่น ทำให้เกิด รังแค และ ขี้เรื้อนเปียก ได้ง่าย
- มีโอกาสแพ้อาหารและไรฝุ่นสูง

อาการที่พบบ่อย: ผิวแห้ง ลอก ขนหลุดเป็นหย่อม และมีสะเก็ดรังแค
คำแนะนำ: ให้รับประทานอาหารเสริมผิวหนัง เช่น โอเมก้า 3 และดูแลเรื่องการอาบน้ำไม่บ่อยเกินไป

สัญญาณเตือน “โรคผิวหนังในสุนัข” ที่คุณต้องไม่มองข้าม
- เกา-เลียตัวบ่อยผิดปกติ
- ขนร่วงเป็นหย่อม ผิวหนังแดง
- มีกลิ่นตัวแรงหรือเหม็นเฉพาะจุด
- มีสะเก็ด รอยดำ หรือแผลเรื้อรัง


หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพาน้องมาตรวจโดยสัตวแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังทันที เพราะโรคผิวหนังในสุนัขไม่เพียงแต่สร้างความรำคาญให้น้องหมา แต่ยังอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นที่ซ่อนอยู่ เช่น ภูมิแพ้ หรือปัญหาภายในระบบร่างกาย

สรุป: รู้ก่อน ป้องกันก่อน น้องหมาก็แฮปปี้
การเข้าใจสายพันธุ์และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเป็นก้าวแรกของการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ใส่ใจ โดยเฉพาะกับ สุนัขพันธุ์ที่มีแนวโน้มเป็นโรคผิวหนัง บ่อย ๆ การดูแลที่ถูกต้องตั้งแต่แรกจะช่วยให้น้องสุขภาพดีและหลีกเลี่ยงปัญหาเรื้อรังในอนาคต