โรคที่เกิดจากพฤติกรรมในน้องหมาและน้องแมว ที่คล้ายโรค NCDs ในคน

27 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โรคที่เกิดจากพฤติกรรมในสัตว์เลี้ยง

โรคที่เกิดจากพฤติกรรมในน้องหมาและน้องแมว ที่คล้ายโรค NCDs ในคน

ในโลกของคนเรา "โรคไม่ติดต่อ" หรือที่เรียกกันว่า NCDs (Non-Communicable Diseases) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคอ้วน ล้วนเป็นผลมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในระยะยาว ซึ่งน้อยคนจะรู้ว่า "สัตว์เลี้ยง" อย่าง น้องหมาน้องแมว เองก็สามารถเป็นโรคในกลุ่มเดียวกันนี้ได้เช่นกัน!

แม้จะไม่มีบุหรี่หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยร่วมเหมือนคน แต่ พฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิต การจัดการความเครียด และการออกกำลังกายของสัตว์เลี้ยง ล้วนมีผลต่อสุขภาพไม่ต่างจากมนุษย์เลยค่ะ


ทำไมพฤติกรรมถึงเป็นต้นเหตุของโรคในสัตว์เลี้ยง?
โรคจากพฤติกรรมในสัตว์เลี้ยงไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่เกิดจากการสะสมพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เช่น:

- พฤติกรรมการกิน: การกินมากเกินไป การกินอาหารที่ไม่สมดุล การได้รับอาหารคนหรือขนมที่ไม่เหมาะสม

- ระดับกิจกรรม: การขาดการออกกาลังกาย การใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านโดยไม่มีการกระตุ้นทางร่างกายและจิตใจ

- การจัดการความเครียด: การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มั่นคง การถูกทอดทิ้ง หรือการขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่เหมาะสม






7  โรคหรือปัญหายอดฮิตจากพฤติกรรมในสัตว์เลี้ยง ที่คล้ายโรค NCDs ในคน


1.  โรคอ้วนในสัตว์เลี้ยง (Pet Obesity)
โรคสัตว์เลี้ยงอ้วน ถือเป็น NCDs เบอร์หนึ่งในกลุ่มน้องหมาน้องแมว เป็นผลโดยตรงจากการกินมากเกินไปและไม่ออกกำลังกาย น้องที่อ้วนมักจะมีไขมันสะสมตามลำตัว หน้าท้องหย่อน และหอบง่าย แม้จะเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย

ผลเสียของโรคอ้วนในสัตว์เลี้ยง:
- เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ
- ทำให้ข้อต่อและกระดูกเสื่อมเร็ว
- เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง

เคล็ดลับ:
เลือกอาหารสูตรควบคุมน้ำหนัก หมั่นชั่งน้ำหนัก และสร้างกิจกรรมที่ช่วยให้น้องได้เผาผลาญพลังงาน


2.  โรคเบาหวานในแมวและสุนัข (Diabetes Mellitus)
โรคเบาหวานในสัตว์เลี้ยง เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พฤติกรรมเสี่ยง:
การกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง
การกินจุบจิบตลอดทั้งวัน
โรคอ้วนสะสมในระยะยาว


อาการสังเกตได้:
- ดื่มน้ำมากผิดปกติ
- ปัสสาวะบ่อย
- น้ำหนักลดแต่กินเยอะ
- ขนเริ่มแห้ง ขาดความเงางาม

แนวทางป้องกัน:
ควรให้กินอาหารแมว/สุนัขที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ และหลีกเลี่ยงอาหารคนหรือขนมหวาน


3. โรคข้อต่อเสื่อม (Osteoarthritis)
เมื่อสัตว์เลี้ยงไม่ออกกำลังกายหรือมีน้ำหนักตัวเกิน ข้อต่อจะรับน้ำหนักเกินไป ทำให้เกิดภาวะข้อต่อเสื่อมก่อนวัย

พฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง:
- การเลี้ยงสัตว์ในห้องแคบ ไม่มีพื้นที่เดินหรือวิ่ง
- ปล่อยให้น้องกระโดดขึ้นลงจากที่สูงบ่อย ๆ
- เลี้ยงในพื้นลื่นจนเกิดการบาดเจ็บสะสม

อาการที่ควรระวัง:
- เดินกระเผลก
- ขาแข็งหรือขาเกร็ง
- ไม่อยากเดินหรือเคลื่อนไหว
- มีเสียงดังกรอบแกรบเวลาขยับขา


4.  โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Diseases)
สัตว์เลี้ยงที่กินอาหารมีไขมันสูง และไม่ค่อยได้ออกแรง มักเสี่ยงต่อโรคหัวใจและภาวะความดันผิดปกติ

อาการของโรคหัวใจในสัตว์เลี้ยง:
- เหนื่อยง่าย
- หายใจแรง
- ไอเรื้อรัง
- เหงือกซีดหรือม่วง


วิธีป้องกัน:
ให้อาหารที่ควบคุมปริมาณโซเดียมและไขมัน รวมถึงพาไปตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีความเสี่ยง


5. ความเครียดและปัญหาพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงเครียดเรื้อรัง จากการขาดปฏิสัมพันธ์ หรืออยู่ในบ้านที่ไม่มีการกระตุ้นทางสมอง จะมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น:

- กัดทำลายข้าวของ
- เห่า/หอนทั้งวัน
- ซึม ไม่กินอาหาร
- เดินเป็นวงกลม หรือเลียตัวจนเกิดแผล


สาเหตุหลักของความเครียดในสัตว์เลี้ยง:
- อยู่คนเดียวเป็นเวลานาน
- ถูกตีหรือลงโทษ
- ไม่เคยพาออกนอกบ้าน
- เปลี่ยนเจ้าของบ่อย


6.  ปัญหาทางเดินอาหารจากพฤติกรรมการกิน
การให้อาหารที่ไม่เหมาะสม หรือเปลี่ยนอาหารกะทันหัน อาจทำให้เกิดอาการเช่น:

- อาเจียน
- ท้องเสีย
- ท้องอืด
- ท้องผูกเรื้อรัง

คำแนะนำ:
ควรเปลี่ยนอาหารแบบค่อยเป็นค่อยไปภายใน 7 วัน และสังเกตว่าระบบย่อยของน้องตอบสนองอย่างไร


7. ภาวะซึมเศร้าในสัตว์เลี้ยง (Pet Depression)
สัตว์เลี้ยงสามารถซึมเศร้าได้เหมือนคน โดยเฉพาะน้องแมวที่สูญเสียเจ้าของ หรือสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง

สัญญาณซึมเศร้าในสัตว์เลี้ยง:
- นอนมากกว่าปกติ
- ไม่สนใจของเล่น
- ไม่ยอมกิน
- เลียตัวซ้ำๆ หรือพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ


การป้องกันโรคจากพฤติกรรมในสัตว์เลี้ยง
1. ให้อาหารอย่างสมดุล:
เลือกอาหารสูตรเฉพาะตามวัยและสุขภาพ เช่น สูตรควบคุมน้ำหนัก สูตรโรคไต ฯลฯ

2. สร้างกิจวัตรการออกกำลังกาย:
พาเดิน พาเล่น หรือใช้ของเล่นกระตุ้นการเคลื่อนไหวทุกวัน

3. กระตุ้นสมองและจิตใจ:
ให้น้องได้เล่นของเล่นใหม่ ๆ สลับกัน หรือใช้ของเล่นเสริมปัญญา

4. ตรวจสุขภาพประจำปี:
ควรพาน้องไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเลือด ตรวจร่างกาย และฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอ


สรุป: โรคพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง ป้องกันได้
แม้โรคเหล่านี้จะไม่ติดต่อเหมือนไข้หวัด แต่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างมาก การดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดีตั้งแต่พฤติกรรมพื้นฐานในชีวิตประจำวันจึงสำคัญที่สุด

หากคุณกำลังมองหาแนวทาง ดูแลน้องหมาน้องแมวให้สุขภาพดี ลดความเสี่ยงโรค NCDs คำตอบอยู่ที่ “ใส่ใจทุกมื้ออาหาร และทุกการเคลื่อนไหว”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้