6 จำนวนผู้เข้าชม |
โรคเบาหวานในสัตว์เลี้ยง (Diabetes Mellitus) เป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อยทั้งใน สุนัขและแมว โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป หรือมีพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อโรค อาการโรคเบาหวานในน้องหมาน้องแมวอาจถูกมองข้ามได้ง่าย เพราะจะไม่แสดงอาการในช่วง รกช่วงแรก แต่หากปล่อยทิ้งไว้นาน อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย
โรคเบาหวานในสุนัขและแมว เกิดจากความผิดปกติของร่างกายในการสร้างหรือ การทำงานที่ผิดปกติของอินซูลิน (Insulin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป และเกิดความผิดปกติในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
ผู้ปกครองสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ดังนี้
1. ดื่มน้ำมากผิดปกติ (Polydipsia)
น้องหมาน้องแมวที่เป็นเบาหวานจะมีพฤติกรรมดื่มน้ำมากกว่าปกติ บางตัวถึงขั้นดื่มน้ำทั้งวัน เนื่องจากร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ
2. ปัสสาวะบ่อย (Polyuria)
เพราะน้ำตาลในเลือดสูง ร่างกายจึงขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะ ทำให้น้องหมาน้องแมวเข้ากระบะทรายหรือออกไปฉี่บ่อยผิดปกติ บางตัวอาจควบคุมการขับถ่ายไม่อยู่
3. กินเก่ง แต่ผอมลง (Polyphagia and weight loss)
ถึงแม้ว่าน้องจะกินเยอะ แต่ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้ ทำให้ต้องดึงพลังงานจากไขมันและกล้ามเนื้อ ส่งผลให้น้ำหนักลดลงเรื่อย ๆ
4. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
แม้จะไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน แต่น้ำหนักของน้องกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่ควรรีบพบสัตวแพทย์
5. ซึม เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง
เมื่อร่างกายไม่ได้พลังงานเพียงพอ น้องจะมีอาการอ่อนแรง เหนื่อยง่าย และไม่ร่าเริงเหมือนเดิม
6. ขนร่วง ผิวหนังไม่แข็งแรง
โรคเบาหวานส่งผลต่อสุขภาพผิวและเส้นขน ทำให้น้องมีขนร่วงบ่อย ขนหยาบกร้าน หรือมีแผลหายช้า
7. ตามัว หรือเป็นต้อกระจก (ในสุนัข)
สุนัขที่เป็นเบาหวานมีโอกาสสูงในการเกิดต้อกระจก ทำให้การมองเห็นแย่ลง
8. เดินโซเซ หรืออัมพาตบางส่วน (ในแมว)
แมวที่เป็นเบาหวานเรื้อรังอาจเกิด Diabetic Neuropathy มีอาการขาหลังอ่อนแรง เดินลากขา หรือเดินลงส้น
หากน้องมีอาการข้างต้น แนะนำให้รีบพามาพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจเลือดและปัสสาวะ เพื่อวินิจฉัยและเริ่มการรักษาอย่างเหมาะสม โดยการรักษาหลัก ๆ ได้แก่
สรุป
อาการโรคเบาหวานในน้องหมาน้องแมว อาจเริ่มจากการดื่มน้ำมาก ปัสสาวะบ่อย กินจุแต่น้ำหนักลด ไปจนถึงภาวะแทรกซ้อนรุนแรงอย่างต้อกระจกหรือขาหลังอ่อนแรง ผู้ปกครองจึงควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมและสุขภาพของน้อง หากพบความผิดปกติ ควรรีบพามาพบสัตวแพทย์โดยเร็ว เพราะการรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยให้น้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีและอยู่กับเราไปได้นานขึ้น